วันจันทร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2557

บ้านห้วยไร่ หมู่ที่ ๖ ประวัติศาสตร์ด้านสังคม และ วัฒนธรรมกับการย้ายถิ่น


ปี ๒๑๓๓  มีการอพยพ มาอยู่อาศัยบริเวณริมแหล่งน้ำ  และตั้งชื่อว่าบ้านห้วยไร่ หมู่ที่ ๖ บ้านห้วยไร่เคยเป็นราชธาณีแคว้นเชียงแสนและมีการอพยพมาอยู่ในพื้นที่เนื่องจากเป็นป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์  ไปด้วยป่าใหญ่  นานาชนิด   และต้นไม่ไผ่  ไม่ไร่ มาก เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๗  พฤษภาคม ๒๑๓๓  โดยมีนายหิง  นางเอ้ย  มาปลูกกระท่อมเลี้ยงควาย (ปางควาย-ฟาร์มควาย) ต่อมาได้มีนักบุญแห่งล้านนาผู้ยิ่งใหญ่แห่งเมืองลำพูนขึ้นมาสร้างถนนขึ้นพระตำหนักดอยตุงและบูรณสังขรณ์ลุถึง พ.ศ. ๒๔๗๐  คือ ครูบาศรีวิชัย  นักบุญแห่งล้านนาไทย  เดินผ่านบ้านห้วยไร่  ได้พักเที่ยงและได้เวลาฉันท์เพล ณ ที่ห้วยหินลับ  บ้านห้วยข้าวหลาม  บ้านห้วยไร่เป็นทางผ่านในการเดินทางขึ้นดอยตุง   ต้องเตรียมน้ำขึ้นเวลาเดินขึ้นดอย   ขณะนั้นอุบาสก  อุบาสิกา  เดินทางพร้อมนักบุญมาจากเชียงใหม่  ได้ตัดไม้ไร่ ขุดบ่อน้ำ เพื่อจะนำน้ำไปดื่มขณะเดินทาง  จึงชื่อว่าบ้านห้วยไร่   ต่อมานายหิง  นางเอ้ยได้รับคำสั่งจากส่วนราชการให้เกณฑ์คนไปเฝ้าพระธาตุซึ่งกำลังสร้างขึ้นใหม่  พร้อมกับสถาปนาตัวเป็นข้าทาส หรือ บริวารองค์พระธาตุ  จึงได้ชื่อสกุลว่า  พุทธะรักษา  และต่อมาเปลี่ยนเป็นไร่พุทธา  จนถึงปัจจุบัน   ส่วนบ้านดงมะตืนใช้ ชื่อสกุลว่า  ธาตุรักษา
นายหิง  นางเอ้ย  เป็นครอบครัวแรกที่เข้ามาตั้งรกรากอยู่ในพื้นที่ตำบล  ขณะนั้นไม่มีหมู่บ้านใกล้เคียงติดต่อกัน  เนื่องจากมีทิวทัศน์ที่น่าอยู่   จึงได้ไปชักชวนเพื่อนบ้าน ญาติที่เคยอยู่เดิม  รวม  ๑๒๐ ครัวเรือน    จึงนับว่าเป็นหมู่บ้านใหญ่    และ มีการก่อสร้างวัดในปีเดียวกัน 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น